เป็นคำถามยอดฮิตเลยทีเดียวค่ะ เวลาที่ลูกค้าโทรเข้ามาซื้อลูกเบ่งจุ๊บ เบ่งท่อ กับทางM&D เรามักจะเจอกับคำถามนี้เป็นประจำ ซึ่งโดยส่วนมากก็จะเป็นลูกค้าที่ รับงาน Maintenance ท่อ , เปลี่ยนท่อ นั่นเองค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ ถ้าหากเป็นงานที่ผลิตใหม่ ก็จะมีการกำหนดค่าการ%การเบ่ง จากดีไซเนอร์ที่ออกแบบงาน ร่วมถึงขั้นตอนวิธีการติดตั้งงานอย่างละเอียด แต่ถ้าหาก เป็นงานที่ต้องซ่อมแซม หรือเปลี่ยนท่อ ก็มักจะเจอปัญหาและกลายเป็นคำถามยอดฮิต ที่เอามาถาม บ. M&D ของเราบ่อยๆนี้แหละค่ะ  เพราะว่าการที่จะหาค่า % การเบ่งของผู้ดีไซน์ที่เป็นผู้ออกแบบจากโรงงานผู้ผลิต Heat exchanger , Boiler , หรือ Chiller ที่เราต้องการจะซ่อมแซมหรือเปลี่ยนท่อนั้น บางครั้งก็หาไม่เจอและไม่รู้ เก็บกันไว้ตรงไหนแล้ว  ดังนั้น บางทีจึงกลายเป็นเรื่องปวดหัวไปโดยปริยาย แต่ไม่ต้องห่วงนะคะทาง บ.M&D เรา มีทางออกที่จะช่วยแก้ปัญหาในตรงนี้ได้ค่ะ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาตรงนี้ ทาง M&D ขอแชร์วิธีการที่ช่วยให้ลูกค้าทำงานได้ง่ายขึ้นดังนี้ ค่ะ

1.แกะรอย จากลักษณะท่อที่ติดตั้งอยู่เดิม ว่า เป็นงานเบ่ง หรือ เป็นงานเชื่อม หรือเป็นทั้งงานเบ่งและงานเชื่อม ซึ่งตรงนี้หากลูกค้าไม่ชำนาญ ทาง บ.M&D ยินดีให้คำแนะนำและเป็นที่ศึกษา ค่ะ

2.ตรวจสอบ วัสดุของท่อเดิม ว่าทำมาจากวัสดุอะไร ,มีความหนาของท่อเท่าไหร่ , ขนาดของท่อเป็นขนาดเท่าไร ข้อมูลทั้งหมดนี้ เพื่อนำมาเป็นไกด์ไลน์ หาค่าRange  % การเบ่ง ว่าควรมีค่าอยู่ที่ประมาณเท่าใด ซึ่งตรงส่วนนี้ทางลูกค้าสามารถหาข้อมูลมาให้เราวิเคราะห์ช่วยเหลือและขอคำแนะนำได้ค่ะ

3.ตรวจสอบ แพลทชีท (Plat Sheet ) ว่ามีสเปค อย่างไร ,วัสดุ ,รูที่เจาะ ,มีร่องกรู๊ฟหรือไม่  และข้อมูลอื่น ที่เท่าจะหาได้  เพื่อเป็นการกำหนดค่า %การเบ่งที่ละเอียดขึ้น ซึงจะได้ใช้ข้อมูลตรงนี้ ในขั้นตอนของการเบ่งประกอบท่อ

4.ขั้นตอน ทำแบบจำลองการเบ่ง เพื่อหา ค่าการเบ่ง และวิธีการติดตั้ง ให้เหมาะสม ก่อนทำการเบ่งจริง ซึ่งขั้นตอนนี้จะรวมถึงการ เทสรอยเบ่งด้วย วิธีการไฮโดรเทส หรือการทดสอบร่อยเบ่งจากทางลูกค้าเป็นผู้กำหนดให้ก็ได้

หมายเหตุ!      ค่าการเบ่ง  เป็นค่ามาตรฐานทั่วไปที่คนนิยมและยอมรับกันในวงการงานผลิต Heat exchanger โดย Range % การเบ่งนี้ จะอยู่ในช่วง  Elastic  ของตัววัสดุ นั้นๆ ซึ่งหากเราไม่ทำการคำนวณก่อนที่จะเบ่ง เหมือนกับว่าเราไม่กำหนดเหมายไว้ ว่าต้องการเบ่งไปสิ้นสุดที่เท่าใด หากเกิดการเบ่งไปเรื่อยๆ จนเกินค่า Yield Point (จุดล้าของโลหะ)  จะทำให้ไม่สามารถแก้ไขชิ้นงานได้ ดังนั้นจึงได้มีการใช้ %การเบ่งที่เป็นมาตรฐานกันในวงการผลิต Heat Exchanger นั่นเองค่ะ ซึ่งมีการเบ่งประเภทตามวัสดุท่อดังนี้ค่ะ

ในโพทส์ต่อไปเราจามาลองคำนวณตัวอย่างการเบ่งท่อโดยนำ ค่ามาตรฐาน%การเบ่ง มาร่วมคำนวณกันค่ะ ซึ่งจะทำให้ ลูกค้าหมดปัญหาและหมดความกังวล เรื่องการจะเบ่งติดหรือไม่ติด โดยทีเดียวค่ะ และหากเบ่งไม่ติดนั้น จะสามารถย้อนกลับไปหาต้นตอของปัญหาได้ค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะ ไม่ยากเลยใช้ไหมคะ ดังนั้นหากลูกค้ารับงานเปลี่ยนท่อมา ก็สามารถนำวิธีการที่แนะนำไว้ตามข้างต้นนี้มาใช้ได้เลยค่ะ แต่หากสามารถตรวจเช็คข้อมูลได้จากแบบดีไซน์ ก็สามารถทำตามแบบดีไซน์ได้เลย หรือหากอย่ากให้ บ.M&D มาช่วยแนะนำหรือเป็นที่ปรึกษาในงานเบ่ง ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ